Wednesday, January 31, 2007

ช่วง Independent Activities Period หรือ IAP เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ทาง MIT เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียน แต่ไม่มีสอนในห้องเรียนปกติ มีวิชาน่าสนใจหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจ การเมือง ธุรกิจ ทำอาหาร ชิมไวน์ ไปจนถึงหัดว่ายน้ำ ตัวผมเองได้มีโอกาสไปเข้าเรียนอยู่สองสามหลักสูตร อาทิ Nut and Bolt of Business Plan, Start-Up: High-Tech Venture และ Distributed Leadership โดยเฉพาะอันหลังนี่รู้สึกชอบเป็นพิเศษ เพราะโดยส่วนตัวสนใจเรื่อง Leadership, Organizational Development และ Personal Development มาานแล้ว รู้สึกว่ามันสะกิดโดนกึ๋นจริงๆ รายละเอียดของ Distributed Leadership เป็นอย่างไร หากมีเวลา จะมาพิมพ์เก็บไว้เป็นอนุสรณ์

แต่วันนี้รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษกับอีกหนึ่งคอร์ส ที่ไม่คิดว่าจะได้เรียนใน MIT นั่นคือ ฺBang Your Head: Heavy Metal 101 ฟังชื่อแล้วอาจจะงงๆ มันก็คือสอน Introduction to Heavy Metal นั่นเอง คุณ Jeffrey ที่เป็นคนสอน เตรียมสื่อการสอนมาดีมาก ทั้งภาพ เสียง และวีดีโอ ครบถ้วน แกเล่าประวัติความเป็นมาของ Metal และแยกแยะให้เราฟังว่าวงไหนเป็น Metal แท้ วงไหนเป็น Metal เทียม เรียกได้ว่าแกเป็นแฟนพันธุ์แท้จริงๆ

ฟังดูอาจจะไร้สาระสำหรับบางคน แต่สำหรับคนที่ชอบดนตรี โดยเฉพาะ Metal แล้ว ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าจริงๆ (ก็ไม่ได้จ่ายตังค์สักบาท) กลับมาบ้านเลยอยากหา Metal เก่าๆ มาฟัง เคยรู้สึกว่าตัวเองแก่ไม่เหมาะกับ Metal แล้ว แต่พอเห็นวง Judas Priest กลับมาเล่นใหม่ตอนอายุ 60 แล้ว ทำให้ซึ้งเลยว่า Rock never dies and metal never gets old!

Monday, January 29, 2007

เรียน MBA จนจบมาเทอมนึง เพิ่งเข้าใจว่า venture capital คืออะไร ก็ตอนที่มาเรียน Nut and Bolt of Business Plan บวกกับได้อาจารย์เอี๋ยมช่วยสรุปความให้ฟัง จากนั้นก็ไปค้นคว้าเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ขอเอามาบันทึกไว้ใน blog เพื่อกันลืม

venture capital เป็น private equity แบบหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนบริษัทที่เพิ่งเกิดใหม่ หรือบริษัทที่กำลังโต การลงทุนใน venture capital ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องเสี่ยงกับกิจการของบริษัทที่ยังไม่มั่นคง แกว่งขึ้นแกว่งลงแบบสุดขีด เราเรียกผู้ที่ลงทุนใน venture capital ว่า venture capitalist หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า vc

ว่ากันว่า vc ก่อกำเนิดมาได้กว่า 60 ปีแล้ว แต่ที่ทำให้ผู้คนกล่าวขานกันมากสุดๆ คือช่วง dotcom boom มีคนแห่ไปสนับสนุนบริษัท dotcom เกิดใหม่กันเยอะแยะ จนกระทั่ง bubble burst ทั้ง dotcom ทั้ง vc ก็เจ๊งกันเป็นแถบ ไม่แน่ใจว่าเมืองไทยมี vc ที่เป็นตัวเป็นตนหรือเปล่า เคยเห็นแต่ ธนาคาร SME ใครรู้ก็บอกกันบ้างนะครบ

เมื่อพูดถึง vc แล้วก็ต้องพูดถึง angel investor ส่วนใหญ่แล้วเป็นบรรดาผู้บริหารที่นักธุรกิจที่เกษียณหรือเลิกทำงานประจำ แล้วหันมาลงทุนกับบรรดา start-up ทั้งหลาย angel investor ต่างจาก vc ก็ตรงที่ไม่ได้จัดการกองทุนหรือ pooled money โดยมากแล้ว สิ่งที่ได้ angel investor จะได้ตอบกลับมาจากการลงทุนก็คือ ownership equity โดยหากลงทุนถูกที่ถูกทางจริงๆ ก็จะมี IRR ประมาณ 20-30%

หลังจากที่ไปฟัง Financial Outlook 2007 ที่ Kresge Auditorium แล้วรู้สึกได้เลยว่า อเมริกันชนมีไฟอยากจะตั้งบริษัทของตัวเองมาเหลือเกิน เห็นแล้วก็เข้าใจได้เลยว่าทำไม vc ถึงได้เจริญรุ่งเรืองนักในบ้านนี้เมืองนี้ แต่ก็อดระคนหนาวดึ๋งแทนบรรดา prospective entrepreneur เหล่านั้นไม่ได้ว่า ในเมื่อคู่แข่งมันเยอะขนาดนี้ ความเครียดและความกดดันจะมากขนาดไหน แต่อย่างว่าล่ะครับ ที่นี่มันเป็นถิ่นของ go-getter เร่งสปีดตัวเองกันสุดชีวิต บ้านเมืองเขาถึงได้เจริญ(ทางวัตถุ)กันได้ขนาดนี้

ขอออกตัวไว้ก่อนว่า ผมเองความรู้แค่หางอึ่ง เขียนไปก็ไม่รู้ว่าจะถูกหรือเปล่า หากใครเห็นว่าตรงไหนไม่ถูกต้อง ก็ช่วยบอกช่วยกันแก้ไขได้นะจ๊ะ

Sunday, January 28, 2007

มาอยู่อเมริกาตั้งกว่า 6 เดือน เพิ่งได้สัมผัสกับหิมะเต็มๆ ก็เมื่อวานนี้เอง จะเรียกว่าสัมผัสอาจจะน้อยไป เพราะทั้งกลิ้งเกลือก ไถล ม้วนตัวบนหิมะ ด้วยความคะนอง อยากเท่ห์ เลยเลือกเล่น Snowboard แทน Ski ทั้งที่มีคนเตือนแล้วว่า Snowboard นั้นยากกว่า Ski นัก

Loon Mountain ถือว่าเป็นลานสกีที่สวยใช้ได้ (จริงๆ ก็ยังไม่เคยไปที่อื่น 8) ผู้มีประสบการณ์หลายท่านบอกว่าหิมะขาวสวย นุ่มนวล น่าหย่อนก้นลงไปสัมผัส และหลายคนก็ทำเช่นนั้นจริงๆ ส่วนตัวข้าพเจ้าเองก็ฝึกเล่น Snowboard ไปกว่า 5 ช.ม. ยังไม่รู้สึกถึงคำว่าเท่ห์อย่างที่ตั้งใจไว้เลย แต่ก็ดีที่ได้พบว่าร่างกายนั้นยังไม่พร้อมสำหรับการเล่น Snowboard ก่อนไปเล่นครั้งหน้า คงต้องเตรียมพร้อม ฟิตและฝึกความยืดหยุ่นของร่างกายให้มากกว่านี้


Friday, January 26, 2007

Dinner at Teru's

Wednesday, January 24, 2007

สิ่งที่ retailer ต้องระวังในการเปิดบริการ internet ordering ก็คือเรื่องของการส่งของ หากบรรจุใส่หีบห่อไม่ดี สินค้าเสียหาย จะทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกได้ เมื่ออาทิตย์ก่อนได้สั่งหมึกพิมพ์ แฟ้ม กับน้ำยาล้างจานผ่านทาง website ของ Staples อีกสองสามวันสินค้าก็มาตรงตามวันที่แจ้งไว้ใน website แต่พอเปิดกล่องออกมา กลับพบว่าฝาขวดน้ำยาล้างจานแตก ทำให้น้ำยาหกออกมาเปื้อนแฟ้มและหมึกพิมพ์ โชคดีที่หมึกพิมพ์ห่อพลาสติกไว้อีกชั้น จึงไม่เปื้อน แต่ตัวปัญหาคือไอ้น้ำยาล้างจานนี่แหละ เผอิญว่ามันเป็นแบบที่ใช้สำหรับเครื่องล้างจาน เลยเข้นข้น และกลิ่นแรงกว่าน้ำยาล้างจานแบบใช้มือ เล่นเอาเซ็งเป็ดไปหลายขุม โมโหมาก เลยถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วอีเมล์ไปด่า Customer Service ว่าผิดหวังในการให้บริการของ Staples มาก ไม่คิดเลยว่าบริษัทระดับนี้จะบกพร่องกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
จุดที่น่าสนใจคือ การแก้ปัญหาของ Staples หนึ่งวันให้หลัง Staples ส่งอีเมล์กลับมาขอโทษพร้อมกับเสนอที่จะส่งน้ำยาล้างจานมาให้ใหม่ พร้อมทั้งแถม gift certificate อีก 10 dollars จริงๆ แล้วตอนที่ complain ไป ก็ไม่ได้คิดว่าจะ return ของหรือกะจะเอาของแถมอะไร แต่พอได้รับ response มาแบบนี้ก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
ได้บทเรียนว่า หากรู้ว่าเกิดการผิดพลาดในบริการหรือผลิตภัณฑ์ สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก คือ ต้องขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจ พร้อมกับเสนอที่จะทดแทนสินค้านั้นๆ ให้โดยในทันที หรือหากมีของกำนัลพิเศษให้ยิ่งดีใหญ่ ลูกค้าจะได้รู้สึกว่าความผิดพลาดนี้ มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ทางผู้บริโภคเองก็อย่านิ่งเฉย หากพบว่าได้รับบริการหรือสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ให้รีบ feedback ไปทางบริษัททันที จะเป็นผลดีกับตัวเองและช่วยให้บริษัทนั้นพัฒนาบริการหรือสินค้าให้ดีขึ้นไปอีก เรียกว่า win-win situation อย่างแท้จริง