Monday, July 31, 2006

goodbye to sim and arc
Jun 23, 2006 - 3 Photos

Our life together is so precious together

We have grown, we have grown

Although our love is still special

Let's take a chance and fly away somewhere alone

It's been too long since we took the time

No-one's to blame, I know time flies so quickly

But when I see you darling It's like we both are falling in love again

It'll be just like starting over, starting over

Everyday we used to make it love

Why can't we be making love nice and easy

It's time to spread our wings and fly

Don't let another day go by my love

It'll be just like starting over, starting over

Why don't we take off alone

Take a trip somewhere far, far away

We'll be together all alone again

Like we used to in the early days

Well, well, well darling It's been too long since we took the time

No-one's to blame, I know time flies so quickly

But when I see you darling

It's like we both are falling in love again

It'll be just like starting over, starting over

Our life together is so precious together

We have grown, we have grown

Although our love is still special

Let's take a chance and fly away somewhere

Starting over

เพลงนี้ชื่อว่า Just Like (Starting Over) ของ John Lennon เป็นเพลงที่ผมชอบฟังเมื่อถึงคราวที่ต้องลาจากใครสักคน อาจดูเหมือนเป็นเพลงของคู่รักที่ต้องจากกัน แต่ไม่เป็นไร ผมถูไถไปได้ว่า เพื่อนฝูงจากกันก็คงใช้ได้ โดยเฉพาะท่อนนี้

Our life together is so precious together

We have grown, we have grown

Although our love is still special

Let's take a chance and fly away somewhere alone เราต่างคนก็ต่างเติบโต และเราก็ต้องโบยบินไปหาหนทางใหม่ๆ ชีวิตใหม่ๆ กันต่อไป อย่างเช่นวันนี้ รู้สึกใจหายที่น้องๆ กลุ่มแรก คือ ซิมกับอาร์ค ต้องจากบอสตันเพื่อไปเจอกับของจริงที่ Wharton และอีกไม่นานน้องๆ ที่เหลือก็คงจะจากไปทีละคนสองคน Time Flies So Quickly คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ตลอดเวลาเกือบ 2 เดือน เราชาว Thai MBA in Boston นั้นมีความสุขกันแค่ไหน ทั้งเรียนทั้งเล่นคละเคล้ากันไป จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้หายไปไหนไกลนักหนา ว่างๆ ก็คงไปแวะเยี่ยมเยียนกันได้บ้าง แต่ก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้จริงๆ

Sunday, July 30, 2006

Six Flags
Jun 23, 2006 - 22 Photos
ก่อนโลกแห่งความจริงอันหฤหรรษ์และหฤโหดจะย่างเข้ามาปลายเดือนส.ค.นี้ เราชาวไทยและชาวญี่ปุ่นขอให้เวลาที่เหลืออยู่กันอย่างเต็มที่ ท่องเที่ยวกันไปทั่ว boston และวันนี้ก็เป็นอีกหน ที่ลดอายุตัวเอง มาคะนองกับเครื่องเล่นหวาดเสียวสารพัดที่ six flags ตัวผมเอง ไม่ค่อยถนัดกับเครื่องเล่นแบบนี้อยู่แล้ว แค่เห็นก็เวียนหัวแล้ว แต่บรรดาน้องๆ กับชาวญี่ปุ่นนั้นไม่ยั่น เริ่มกันที่ Superman เป็น rollercoaster ที่ว่ากันว่าเร็วที่สุดในอเมริกา และน่าจะเสียวที่สุดใน six flags ผมเองไม่เจียมสังขารตัวเองไปเล่นกับเขาด้วย ตอนลงมานี่เล่นเอามึนไปชั่วขณะ แทบจะเดินไม่เป็น จบจาก superman พี่ๆ น้องๆ ก็ไปต่ออีกหลายเครื่องเล่น ผมตามไปเล่นบ้างเป็นบางเครื่อง เช่น flashback, blizzard river แต่ให้เล่นครบถ้วนเหมือนคนอื่น คงไม่ไหว เดี๋ยวข้าวกลางวันจะออกมาหมด ถึงแม้จะไม่ได้เล่นเยอะเหมือนคนอื่น แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะค่าตั๋วเราเสียถูกมาก และได้เรียนรู้อีกว่า ฝรั่งที่นี่มันบ้าทะเลกันมาก ขนาดทะเลเทียมห่วยๆ ที่นี่ยังแห่มาเล่นกันเต็มไปหมด หากไปเจอ pp หรือเสม็ด คงจะกรี๊ดกันแทบสลบ เฮ้อ แอบคิดถึงเมืองไทยนิดๆ นะครับพี่น้อง
Go's Party
Jun 23, 2006 - 19 Photos
เพื่อนญี่ปุ่นอันแสนใจดีและน่ารักของเราจัด party อีกแล้วครับ เราไปกันที่บ้าน Go อีกครั้ง แต่คราวนี้คนเยอะมาก แค่ผองเราชาวไทยก็เต็มห้องแล้ว นี่ยังมีบรรดาลูกๆ ภรรยา และเพื่อนๆ ของเพื่อนญีปุ่นอีก แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนชาว Harvard Business School ด้วย ลูกๆ ของ Teru และ Ken ก็น่ารักน่าหอม แก้มงี้เป่งเชียว แต่ไม่กล้าหอม กลัวพ่อเขาเตะเอา เราก็ไม่รู้ด้วยว่า culture ของญี่ปุ่นเขาเป็นยังไง

Wednesday, July 26, 2006

และแล้วผมก็เจอสถานที่สุดยอดอีกแห่งหนึ่งใน Boston ใช่แล้วครับพี่น้อง มันคือ the Museum of Fine Arts เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่สุดยอดมาก รวบรวมศิลปะแทบทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปั้นดินเผา ภาพเขียน ภาพถ่าย ฯลฯ ผมเองก็ไม่ใช่คออาร์ตแบบ Hardcore แต่ก็สามารถดื่มด่ำและมีความสุขกับการชมศิลปะได้ ไม่ต้องปีนบันไดแต่อย่างใด นอกจากงานศิลป์ที่มีโชว์กันเป็นปกติแล้ว ที่ mfa ยังมีภาพยนตร์อาร์ตๆ กับคอนเสิร์ตเจ๋งๆ ให้ดูอีกเพียบ สงสัยว่าคงจะต้องมาเยี่ยมกันอีกหลายหนเลยนะจ๊ะ พี่ mfa (http://www.mfa.org)

Saturday, July 22, 2006

วันนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้มาเหยียบ Sanders Theatre หลังจากศุกร์ที่แล้วได้มาดู The Marchant of Venice แต่เส้นความอดทนขาดเพียงแค่ 20 นาทีแรก เพราะฟังนักแสดงไม่รู้เรื่อง (รู้สึกว่าตัวเองโง่อีกแล้ว T_T) แต่สำหรับศุกร์นี้ ทาง Harvard จัดคอนเสิร์ต Mozart Celebration โดยเชิญวง Boston Landmarks Orchestra (BLO) มาเล่น ถึงแม้จะไม่ใช่คอเพลงคลาสสิค แต่ก็น่าจะดีกว่านั่งดูละครของท่านเขย่าหอกศุกร์ที่แล้ว ครั้งนี้คนแน่นโรงละครตามที่คาดไว้ ทางทีมคนไทยเราก็มากันเกือบครบ แต่ต้องนั่งแยกกันเพราะว่าเข้าโรงไม่พร้อมกัน คอนเสิร์ตเริ่มด้วย Symphony No. 39 แล้วตามด้วย Requiem Mass โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบช่วงหลังมากกว่า เพราะนอกจากเสียงเครื่องดนตรีแล้ว ยังมีเสียง Chorus จากทีม New World Chorale และ Vocal Soloist อีก 4 คน คือ Jonita Lattimore (soprano), Victoria Avestisyan (mezzo soprano), Charles Blandy (tenor) และ Robert Honeysucker (baritone) แต่หากถามว่าเข้าใจคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างลึกซึ่งหรือไม่ ก็คงตอบว่าไม่ครับ คงต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์อีกสักนิดในการทำความเข้าใจ หลังจากคอนเสิร์ตเลิกแล้ว ก็ขึ้น T กลับบ้าน มีเรื่องให้ต้องประหลาดใจ ที่อยู่ดีๆ ฝรั่งที่นั่งอยู่ข้างหลังพูดขึ้นมาว่า "คนไทยใช่มั๊ย" ปรากฎว่าพี่แกเคยอยู่เมืองไทยมา 1 ปี ที่เชียงใหม่ ตอนนี้ทำงานเป็น Economic Consultant อยู่ที่ Lexicon แถมยังบอกว่ามองหาคนไทยมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้เจอเลย ปีหน้าจะสมัคร MBA ของ Sloan อีกต่างหาก โลกนี้มีเรื่องให้เราต้องประหลาดใจอยู่เสมอจริงๆ คุยได้แป๊บเดียวก็ต้องลง T ที Kendall/MIT แล้ว เลยปล่อยหน้าที่คุยกับฝรั่งให้เป็นของน้องๆ ต่อไป

Thursday, July 20, 2006

2 วันต่อมาหลังจากไปเยี่ยมชม Boston Public Library เราก็ไปกันที่ the JFK Musuem and Library ถือว่าเป็น week ที่คุ้มมาก เพราะไม่ค่อยได้เรียนเท่าไหร่ แต่ได้เที่ยวหลายที่ อิ อิ ท่าน JFK ของเรานี้เป็นที่ชื่นชมของคน Boston มากๆ และถือว่าเป็นประธานาธิบดีที่เกิดจากความนิยมของประชาชนจริงๆ แต่เสียดายที่ต้องมาเสียชีวิตเพราะโดนลอบสังหารไปเสียก่อนที่จะทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน

Monday, July 17, 2006

(Up) EMBA @ Prudential (From Right to Left; D.K., Eisley, Seiji, Jee Young, Gib, Pui, Weijiang, Carlo, Rung, Jinha, Arc, Niran) (Bottom) 3 Thai Girls @ Prudential
ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุ และแสงแดดที่เผาเนื้อขาวบ้าง คล้ำบ้าง ของเราชาวไทยและชาวญี่ปุ่นรวมกันทั้งสิ้น 14 ชีวิต เรายืนถ่ายรูปกันอย่างมีความสุข ณ Rockport ชายหาดนอกเมือง ที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหาดเมืองไทยสวยกว่าพันเท่า เป็นครั้งแรกที่เราเดินทางเป็นหมู่คณะออกนอกเมืองกันอย่างพร้อมเพรียงเช่นนี้ โดยรถทั้งสามคันเป็นของเพื่อนญี่ปุ่นทั้งสิ้น เป็นการยืนยันได้ว่า เศรษฐกิจของญีปุ่นนั้นดีกว่าไทยจริงๆ น้ำทะเลของ Rockport นั้นเย็นจับขั้วหัวใจ เปรียบเหมือนน้ำผสมน้ำแข็งที่ไอ้เด็กเวรทั้งหลายชอบสาดเล่นกันในวันสงกรานต์ ชายหาดก็คลาคร่ำไปด้วยบรรดาฝรั่งหัวทองที่พากันมานอนอาบแดด (ที่นี่เขาตรงข้ามกับเมืองไทย ตรงที่นิยมคนผิวแทนนะครับ หากบรรดา whitening ทั้งหลายมาขายที่นี่ คงเจ๊งไม่เป็นท่า) นอกจากจะมีโอกาสได้เล่นลิงชิงบอลกลางทะเลน้ำแข็ง ในนามทีมชาติไทย ปะทะ ทีมชาติญี่ปุ่นแล้ว เราทั้ง 14 สหาย (รวมเพื่อนที่ตามมาทีหลังอีก 3 ก็เป็น 17 สินะ) ได้มีโอกาสไปกิน Lobster ตัวละ 11.35 เหรียญ พร้อมกับกินซุปหอย fish cake และ ice cream ราคา 3 เหรียญ จนทุกคนพุงกางออกประมาณ 1.25 นิ้ว เมืองชายทะเล Rockport นั้นสวยมาก บ้านไม้แต่ละหลังดูน่ารัก กระจุ๋มกระจิ๋ม ผู้คนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส มีอัธยาศัยกับกะเหรี่ยงอย่างเรามาก พวกเราเดินไปไหน ก็มีแต่คนสนใจ นั่นไงพวกญี่ปุ่นมากันอีกแล้ว (สมการในความรู้สึกของพวกพี่กันนั้น เอเชีย = ญี่ปุ่น) Q: Where are you guys from? A: Thailand Q: Oh .. I thought you are from Japan ! (shit) สรุปแล้วก็เป็นทริปที่มันส์ดี สหายญี่ปุ่นแต่ละคน มีวิญญาณความเป็นเด็กไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดสูงมาก สองปีที่อยู่กับพวกท่าน คงจะหฤหรรษ์ไม่น้อย
At Rockport (July 16, 2006) More texts will be posted later.
ชาว EMBA ลูกศิษย์อาจารย์ Amy ไปเยี่ยมชมนิทรรศการ Journey of the Imagination ที่ Boston Public Library ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ eye-opening อย่างมาก โดยเฉพาะตัวผมเอง ไม่เคยคิดสนใจเรื่องของแผนที่แม้แต่น้อย เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า แผนที่นั้นมีความสำคัญกับเรามากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทหาร การเมือง หรือแม้แต่ธุรกิจ

Friday, July 14, 2006

รูปนี้ บรรดาชาว English for MBA แห่ง Harvard Summer School ไปถ่ายกันที่ร้าน Tea Stop เป็นร้านขายชาไข่มุก กินกันไปคนละ 3 เหรียญ หายคิดถึงเมืองไทยไปพอสมควร ขอแนะนำน้องๆ จากซ้ายไปขวา เริ่มจาก น้องปุ้ย UCLA น้องรุ้ง Kellogg น้องอาร์ค Wharton น้องกิ๊บและพี่ใหญ่จากเกาหลีนามว่า DK ทั้งสองคนนี้เรียนที่ MIT Sloan เพื่อนร่วมชั้นของผมที่ต้องเห็นหน้ากันไปอีก 2 ปี ส่วนคนขวาสุดคือ Eisley หนุ่มชาวไต้หวัน อายุเพียง 24 ปี ผู้มีวิญญาณแห่งการเรียนรู้สูงส่ง จนต้องขอคารวะ

Wednesday, July 05, 2006

The Fourth of July

Sunday, July 02, 2006

Today, we went to "King Bhumibol Adulyadej of Thailand Square" which is very close to Harvard Square. Although it is a small square, we spent more than half an hour taking photos. During the time that we were taking photos, we saw many foreigners in a nearby resturant looked at us. They might wonder "What're they doing? It's just a square." But to us, we know that it was not just a square, right?? So, that's why we spent so much time at this spot. ""Long live the King""

Saturday, July 01, 2006

กิจกรรมภาคบังคับยามอยู่ Boston อีกอย่างก็คือ Whale Watch หรือดูปลาวาฬ สถานที่ขึ้นเรือไปดูปลาวาฬยอดนิยมก็คือแถวๆ New England Aquarium ตั๋วราคาประมาณ 30 USD ก่อนจะขึ้นเรือ ใครรู้ตัวว่าเมาเรือควรจะเตรียมยาดม ยาหม่อง หรือกินยาแก้เมาเรือไปก่อน เพราะเรือออกไปค่อนข้างไกล และควรเตรียมเสื้อกันลมไปด้วย เพราะลมอภิมหาแรง และสุดหนาว (หากใครมีแฟนไปด้วย ก็คงไม่หนาวเท่าไหร่ .. มั้ง) สิ่งที่ควรจะตระหนักไว้ก็คือ อย่าได้เชื่อในสิ่งที่เห็นใน brochure ว่าพี่วาฬจะกระโดดออกมาจากน้ำโชว์ตัวเป็นๆ ให้เราเห็น วันนั้นแค่ได้เห็นหลัง ได้เห็นพี่วาฬพ่นน้ำ ก็กรี๊ดกันลั่นเรือแล้ว ยิ่งได้เห็นทีเด็ดคือหางพี่วาฬนี่กรี๊ดกันเรือแทบแตก อย่างว่าพี่วาฬแกก็น้ำหนักไม่หน่อย จะให้มากระโดดเหมือนปลาโลมาคงลำบากพิลึก ใครอยากดูวาฬลอดห่วง แนะนำให้กลับไปดูที่ Safari World บ้านเราดีกว่า ถึงแม้จะไม่ได้เห็นพี่วาฬเต็มตัว แต่ใครที่มาถึง Boston ก็ไม่น่าพลาดกิจกรรมนี้ มันก็สนุกดีเหมือนกัน ได้นั่งเรือเล่นออกไปมหาสมุทรก็เพลินดีครับ